รู้จักกับเรา

เว็บไซต์ปรมัตถสัจจะเกิดขึ้นจากผู้ปฏิบัติธรรมทั้งในและต่างประเทศที่ได้มารวมตัวกันในนามของ “กลุ่มจิตต์เกษม” ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวคำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ได้อ่านหนังสือและฟังซีดีของหลวงพ่อ รวมทั้งได้ฝึกหัดปฏิบัติธรรมจากครูบาอาจารย์ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ มาได้ระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งคิดว่าเรามีความเข้าใจและศรัทธาในคำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภมากพอแล้ว แต่เมื่อได้มีโอกาสมาพบกับอาจารย์อัญชลี ไทยานนท์ ได้ฟังธรรมะและคำสอนของหลวงพ่อเทียนอย่างละเอียดจากอาจารย์ ตั้งแต่เทคนิคของการปฏิบัติไปจนถึงอารมณ์วิปัสสนาและการเข้าถึงสภาวะธรรมขั้นสูงสุด จึงทำให้ทราบว่าความเข้าใจของเราในอดีตที่มีต่อคำสอนของหลวงพ่อนั้นยังขาดความเข้าใจในธรรมะส่วนลึกที่หลวงพ่อต้องการจะสื่อให้เราทราบ เพราะเป็นธรรมะขั้นโลกุตตระ อันเนื่องมาจากขันธ์ ๕ ถูกทำลายหรือความดับสนิทของขันธ์ ๕ สิ่งที่หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภได้พบได้เห็นนั้นเป็นธรรมะอึดใจเดียว ดังนั้นการพูดการสอนของหลวงพ่อจึงทำได้เพียงการอุปมาเท่านั้น ไม่สามารถที่จะอธิบายเป็นคำพูดให้ใครเข้าใจได้ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่ในน้ำจะไปรู้เรื่องนกที่บินอยู่บนฟ้าได้อย่างไร ฉันใดก็ฉันนั้น พวกเราจึงไม่เข้าใจสิ่งที่หลวงพ่อพูด เพราะมันลึกเกินสติปัญญาของเรา

อาจารย์อัญชลี เป็นลูกศิษย์ที่ได้เรียนและปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อเทียนโดยตรง ถ้าจะพูดอย่างภาษาชาวบ้านทั่วๆไป ก็คงต้องใช้คำว่า “หลวงพ่อปั้นมากับมือ”เพราะหลวงพ่อเป็นผู้สอน ควบคุมการปฏิบัติ และสอบอารมณ์อาจารย์ทุกขั้นตอน ตั้งแต่อารมณ์รูป-นามเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๒๘ จนกระทั่งอาจารย์ได้พบสภาวะอาการเกิด-ดับเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ ๒๕๒๙

วันหนึ่งมีคนถามหลวงพ่อเทียนว่า “คุณอัญชลีมีทิฏฐิเดียวกับหลวงพ่อหรือเปล่า ?” หลวงพ่อตอบว่า “เดียวกัน”

เราทราบมาว่าอาจารย์ได้เรียบเรียงวิธีปฏิบัติ และอารมณ์จากการเจริญสติแบบหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ พิมพ์เป็นหนังสือ (เล่มเล็ก) ถวายให้ท่าน โดยหลวงพ่อตั้งชื่อว่า “ทวนกระแสความคิด” พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ ๒๕๒๙ เพื่อเป็นคู่มือสำหรับนักปฏิบัติ หนังสือเล่มนี้เป็นที่รู้จักกันดีในสมัยนั้น เพราะหลวงพ่อได้แจกไปกว่า ๑๐,๐๐๐ เล่ม นอกจากนั้นท่านยังให้อาจารย์ตรวจหนังสือที่มีคนไปถอดเทปเพื่อเอาไปพิมพ์ว่ามีการเปลี่ยนคำพูดของท่านหรือไม่ มีการตีความคำพูดของท่านผิดๆในหนังสือเล่มไหนบ้าง หลวงพ่อสั่งให้อาจารย์ไปอ่านดูทุกเล่ม และเมื่อ พ.ศ ๒๕๓๐ อาจารย์กับหลวงพ่อได้ช่วยกันเขียนเรื่อง“สมถะ-วิปัสสนา” เนื่องจากท่านต้องการให้เขียนชัดๆว่า สมถะ กับวิปัสสนาต่างกันอย่างไร

อาจารย์อัญชลีคือหลักฐานที่เป็นตัวตนในคำพูดของหลวงพ่อเทียน ที่เคยเชิญชวนและท้าทายทุกคนให้เข้ามาพิสูจน์คำพูด คำสอนของท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เชื้อชาติ ศาสนาใดก็ตาม หลวงพ่อย้ำเสมอว่าสิ่งนี้มีอยู่ในคนทุกคน ความเป็นพระไม่ได้สงวนไว้สำหรับผู้ที่โกนหัว ห่มผ้าเหลืองเท่านั้น

ประโยชน์ที่พวกเราได้รับจากอาจารย์อัญชลีนั้นมีคุณค่าอนันต์ เพราะทำให้เราไม่เดินเข้ารกเข้าพง หาทางออกไม่ได้ เสียเวลาไปตลอดชีวิต แม้จะมีปัญญาน้อย เดินไปอย่างช้าๆ แต่ก็มั่นคงตรงทิศทาง หากมีความตั้งใจและมีความเพียรพยายาม จุดมุ่งหมายย่อมหวังได้ในชีวิตนี้ อาจารย์อัญชลีได้แนะนำผู้ที่เข้ามาพบท่านให้กลับไปอ่าน/ฟังที่หลวงพ่อพูด หลวงพ่อสอน ไม่ใช่ให้มาฟังจากอาจารย์ ตลอดเวลาหลายปีที่ได้รู้จักและใกล้ชิดอาจารย์ ท่านได้แสดงให้พวกเราเห็นว่าท่านเคารพและเทอดทูนหลวงพ่อตลอดเวลา ทั้งการกระทำและคำพูด แต่ในทางปฏิบัติเมื่อหลวงพ่อเทียนไม่อยู่แล้วเรายังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ย่อมจำเป็นต้องขอคำชี้แนะจากครู อาจารย์ผู้รู้ตาม เห็นตามหลวงพ่อเทียน นี่คือเหตุผลที่ทางกลุ่มจิตต์เกษมเห็นความจำเป็นที่ต้องทำเว็บไซต์ปรมัตถสัจจะขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้แก่บุคคลในวงกว้างได้มีโอกาสเรียนรู้คำสอนและตรวจสอบการปฏิบัติของตนเองว่าถูกต้องหรือไม่

ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันอนุรักษ์คำสอนอันมีค่ายิ่งนี้ให้อยู่คู่กับมนุษยชาติตลอดไป

ถามหลวงพ่อว่า “วิปัสสนูแปลว่าอะไร” หลวงพ่อตอบว่า “วิปัสสนู แปลว่าไม่ใช่วิปัสสนา”
(หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ)